Skip to content
ข้อดี และข้อเสียของพอร์ซเลนวีเนียร์มีอะไรบ้าง?
ข้อดี
- มีความแข็งแรงมากกว่าวัสดุชนิดอื่นที่ใช้ในการทำวีเนียร์ (อาจอยู่ได้นานถึง 15 ปี)
- ให้ผลลัพธ์ที่สวยงาม และน่าพึงพอใจ
- ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงสีจากคราบสะสมต่างๆ เมื่อเทียบกับคอมโพสิตวีเนียร์
- ด้วยคุณสมบัติการสะท้อนแสงที่ใกล้เคียงกับชั้นเคลือบฟันของฟันธรรมชาติ ทำให้พอร์ซเลนวีเนียร์มีความสวยงามใกล้เคียงฟันธรรมชาติมากกว่าคอมโพสิตวีเนียร์
- สามารถแก้ไขปัญหาฟันเปลี่ยนสี และปัญหาการเรียงตัวของฟันได้
- เป็นการรักษาที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในงานทันตกรรมเพื่อความงาม
ข้อเสีย
- มีค่ารักษาสูงกว่าคอมโพสิตวีเนียร์
- ใช้เวลาในการรักษามากกว่า ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องทำการนัดหมายถึง 3 ครั้ง (โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 2 ครั้ง)
- วีเนียร์มีโอกาสหลุดได้ จึงอาจต้องกลับมายึดติดวีเนียร์ซ้ำอีกครั้ง
- อาจทำให้เกิดอาการเสียวฟัน
- สูญเสียเนื้อฟันบริเวณผิวด้านหน้าของฟัน และมีข้อจำกัดในการใช้งาน คือห้ามกัด ห้ามแทะ
- ไม่แนะนำในผู้ที่มีฟันผุ หรือ โรคเหงือกและปริทันต์อักเสบ
ข้อดี และข้อเสียของพอร์ซเลนวีเนียร์มีอะไรบ้าง?
ข้อดี
- มีความแข็งแรงมากกว่าวัสดุชนิดอื่นที่ใช้ในการทำวีเนียร์ (อาจอยู่ได้นานถึง 15 ปี)
- ให้ผลลัพธ์ที่สวยงาม และน่าพึงพอใจ
- ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงสีจากคราบสะสมต่างๆ เมื่อเทียบกับคอมโพสิตวีเนียร์
- ด้วยคุณสมบัติการสะท้อนแสงที่ใกล้เคียงกับชั้นเคลือบฟันของฟันธรรมชาติ ทำให้พอร์ซเลนวีเนียร์มีความสวยงามใกล้เคียงฟันธรรมชาติมากกว่าคอมโพสิตวีเนียร์
- สามารถแก้ไขปัญหาฟันเปลี่ยนสี และปัญหาการเรียงตัวของฟันได้
- เป็นการรักษาที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในงานทันตกรรมเพื่อความงาม
ข้อเสีย
- มีค่ารักษาสูงกว่าคอมโพสิตวีเนียร์
- ใช้เวลาในการรักษามากกว่า ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องทำการนัดหมายถึง 3 ครั้ง (โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 2 ครั้ง)
- วีเนียร์มีโอกาสหลุดได้ จึงอาจต้องกลับมายึดติดวีเนียร์ซ้ำอีกครั้ง
- อาจทำให้เกิดอาการเสียวฟัน
- สูญเสียเนื้อฟันบริเวณผิวด้านหน้าของฟัน และมีข้อจำกัดในการใช้งาน คือห้ามกัด ห้ามแทะ
- ไม่แนะนำในผู้ที่มีฟันผุ หรือ โรคเหงือกและปริทันต์อักเสบ