การฟอกสีฟัน คืออะไร?

การฟอกสีฟันเป็นการรักษาทางทันตกรรมเพื่อความงาม สามารถช่วยแก้ไขปัญหาฟันเปลี่ยนสี และขจัดคราบสีที่ติดบนตัวฟันซึ่งเกิดจากปัจจัยต่างๆในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น อาหาร เครื่องดื่ม และการสูบบุหรี่

การฟอกสีฟันเป็นหนึ่งในหัตถการที่ช่วยสร้างรอยยิ้มของคุณให้ดูดียิ่งขึ้น ซึ่งสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน มีความปลอดภัย และคุ้มค่าในราคาที่เหมาะสม
คลินิกทันตกรรมสไมล์บ็อกซ์ เราใส่ใจกับสุขภาพฟันของคุณเป็นอันดับแรก ดังนั้นเราจึงใช้วิธีการฟอกสีฟันที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงที่คุณสามารถฟอกสีฟันได้ทั้งที่คลินิก และที่บ้าน

เพื่อรอยยิ้มที่สวยงาม เลือกฟอกสีฟันกับคลินิกทันตกรรมสไมล์บ็อกซ์

ทำไมต้อง “ฟอกสีฟัน”

การฟอกสีฟันมีความปลอดภัยต่อฟัน และสุขภาพช่องปาก เราแนะนำให้คุณเลือกใช้บริการกับคลินิกทันตกรรมที่ใช้ผลิตภัณฑ์ และเครื่องมือฟอกสีฟันที่มีมาตรฐาน โดยคลินิกของเราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ Philips Zoom! ซึ่งเป็นแบรนด์มาตรฐานที่ได้รับความไว้วางใจจากทันตแพทย์ทั่วโลก อีกทั้งเรายังมีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้ข้อมูลที่ควรทราบ ก่อนเข้ารับบริการฟอกสีฟัน

ขณะกำลังฟอกสีฟัน คุณอาจรู้สึกเสียวฟัน ซึ่งเป็นผลข้างเคียงทั่วไปจากการรักษา โดยปกติอาการเสียวฟันจะเกิดเพียงระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นจนหายเป็นปกติ

ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟัน Philips Zoom! สามารถปรับสีฟันของคุณขาวให้ขึ้นได้ 1-8 เฉด และผลลัพธ์หลังฟอกสีฟันอยู่ได้นาน 1-2 ปี อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ และช่วงระยะเวลาดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของคุณทั้งการรับประทานอาหาร และการดูแลรักษาความสะอาดหลังฟอกสีฟัน คุณอาจจำเป็นต้องฟอกสีฟันซ้ำ หรือทัชอัพ เพื่อคงสภาพสีฟันให้ขาวสว่างอย่างที่คุณต้องการ ซึ่งสามารถทำได้ด้วยตัวเองโดยใช้ชุดฟอกสีฟันที่บ้าน

การฟอกสีฟันที่คลินิก (In-office Teeth Whitening)

บริการฟอกสีฟันที่คลินิก เป็นการฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ ซึ่งคลินิกของเราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟัน Philips Zoom! และมีเครื่องฉายแสง LED จำเพาะที่ช่วยเร่งกระบวนการฟอกสีฟันให้สีฟันสว่างขึ้น ในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง!

การฟอกสีฟันที่บ้าน (Home Teeth Whitening)

การฟอกสีฟันที่บ้าน คุณจะได้รับถาดฟอกสีฟัน และน้ำยาฟอกสีฟัน Philips Zoom! ซึ่งคุณสามารถฟอกสีฟันได้ด้วยตนเองโดยไม่มีอันตรายใดๆ เราจะนัดคุณมาที่คลินิก 2 ครั้ง เพื่อพิมพ์ปากสำหรับทำถาดฟอกสีฟันเฉพาะบุคคล

ขั้นตอนการฟอกสีฟันที่คลินิก

การฟอกสีฟันที่คลินิกด้วย Philips Zoom! เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม และมีประสิทธิภาพสูงในการสร้างรอยยิ้มให้ขาวใสยิ่งขึ้น ซึ่งน้ำยาฟอกสีฟันของ Philips Zoom! ได้รับการพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ทำให้ตอบสนองต่อการกระตุ้นด้วยแสงชนิดพิเศษ โดยมีส่วนประกอบหลัก คือ สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen peroxide) ซึ่งสามารถทำให้เม็ดสีในชั้นเคลือบฟันเกิดการแตกตัว และสลายไป

ขั้นตอนการฟอกสีฟันด้วย Philips Zoom! ขั้นแรกทันตแพทย์จะทาน้ำยาฟอกสีฟันที่มีลักษณะเป็นเจลลงบนผิวฟัน แล้วใช้เครื่องฉายแสง LED ชนิดพิเศษฉายที่ผิวฟัน เพื่อกระตุ้นปฏิกิริยาของน้ำยาฟอกสีฟันให้เร่งกระบวนการฟอกสีฟัน ทำให้ฟันของคุณขาวสว่างขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ฟอกสีฟัน

หนึ่งในข้อดีของการฟอกสีฟันด้วย Philips Zoom! คือเป็นกระบวนการฟอกสีฟันที่ปลอดภัย และปราศจากความเจ็บปวด เนื่องจากถูกคิดค้นขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อลดอาการเสียวฟัน อีกทั้งเครื่องฉายแสง LED ยังถูกออกแบบให้ปล่อยคลื่นความร้อนออกมาได้น้อย เพื่อให้คุณรู้สึกผ่อนคลายในระหว่างการรักษามากที่สุด

 



ข้อดี ข้อเสียของการฟอกสีฟัน

ข้อดี
  • ช่วยเพิ่มความมั่นใจ
  • ให้ผลลัพธ์ที่สวยงามในราคาย่อมเยาว์
  • เห็นผลลัพธ์ทันที (สีฟันสว่างขึ้นทันทีเมื่อฟอกสีฟันที่คลินิก สำหรับการฟอกสีฟันที่บ้านสามารถเห็นผลได้หลังใช้งาน 1 สัปดาห์)
ข้อเสีย
  • อาจมีอาการเสียวฟัน
  • ไม่สามารถเปลี่ยนสีฟันได้ถาวร จำเป็นต้องทำการฟอกสีฟันซ้ำในอนาคตเพื่อคงสภาพเฉดสีฟันที่คุณต้องการ
  • ต้องระมัดระวังในการรับประทานอาหารที่มีสีเข้ม (เช่น ไวน์แดง แกงกะหรี่ ชา กาแฟ เป็นต้น)

ก่อนฟอกสีฟันควรปฏิบัติอย่างไร?

ก่อนฟอกสีฟัน คุณต้องผ่านการตรวจประเมินช่องปากอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีสุขภาพช่องปากที่ดี ปราศจากฟันผุ โรคเหงือกอักเสบ หรือปัญหาวัสดุบูรณะฟันต่างๆ เพื่อที่ทันตแพทย์จะสามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม และทำให้การฟอกสีฟันเห็นผลลัพธ์สูงสุด

คำถามที่พบบ่อย

หลังฟอกสีฟัน ทันตแพทย์จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหาร และเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม เนื่องจากคราบสีจากอาหาร และเครื่องดื่มจะติดบริเวณผิวฟัน ส่งผลให้ฟันมีสีคล้ำได้
ตัวอย่างอาหาร และเครื่องดื่มที่คุณควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ :

  1. ชา และกาแฟ
  2. ไวน์แดง
  3. ผลไม้สีเข้ม และผลไม้ตระกูลเบอร์รี (เช่น บลูเบอร์รี ราสป์เบอร์รี แบล็กเบอร์รี)
  4. ผลิตภัณฑ์จากมะเขือเทศ (เช่น ซอสสปาเกตตี ซอสมะเขือเทศ)
  5. ซอสสีเข้มต่างๆ (เช่น ซอสถั่วเหลือง น้ำส้มสายชูบัลซามิก)
  6. โซดา และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
  7. ช็อกโกแลต และขนมหวานต่างๆ
  8. อาหาร และเครื่องดื่มที่เป็นกรด (เช่น ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว น้ำผลไม้)

เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดหลังฟอกสีฟัน ควรเน้นการดื่มน้ำเปล่า หรือทานอาหารที่มีสีขาว เช่นเนื้อไก่ ข้าว และดอกกะหล่ำ เป็นต้น

นอกจากนี้ หลังฟอกสีฟันควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เนื่องจากคราบนิโคตินในบุหรี่จะติดบนผิวฟันได้ง่าย

ผลลัพธ์ของการฟอกสีฟันจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวิธีที่การฟอกสีฟัน สีฟันเดิม และพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ

การฟอกสีฟันที่คลินิก (In-office Teeth Whitening)

การฟอกสีฟันวิธีนี้เป็นวิธีการฟอกสีฟันที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด สามารถเห็นผลลัพธ์ในการรักษาเพียงครั้งเดียว โดยใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ที่คลินิกทันตกรรมสไมล์บ็อกซ์ เราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ Philips Zoom! สำหรับการฟอกสีฟันที่คลินิก

การฟอกสีฟันที่บ้าน (Home Teeth Whitening)

การฟอกสีฟันด้วยตนเองที่บ้านเป็นวิธีการฟอกสีฟันที่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้เช่นกัน แต่จะใช้เวลานานกว่าการฟอกสีฟันที่คลินิก ผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ของชุดฟอกสีฟันที่เลือกใช้ และการปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์ ที่คลินิกทันตกรรมสไมล์บ็อกซ์ เราเลือกใช้ชุดฟอกสีฟันที่บ้านจากผลิตภัณฑ์ Philips Zoom!

สิ่งที่ควรทราบก่อนฟอกสีฟัน
การฟอกสีฟันไม่ใช่วิธีการรักษาถาวร และผลลัพธ์ที่ได้ไม่สามารถคงอยู่ตลอด การคงสภาพผลลัพธ์ของการฟอกสีฟันจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ เช่นการรับประทานอาหาร การสูบบุหรี่ และการดูแลสุขอนามัยช่องปาก คุณอาจจำเป็นต้องฟอกสีฟันซ้ำ หรือทัชอัพเป็นระยะเพื่อคงสภาพสีฟันให้คงความขาวใส

ปัจจัยที่ส่งผลให้ฟันมีสีเหลือง หรือฟันเปลี่ยนสี ได้แก่อายุที่เพิ่มมากขึ้น ลักษณะทางพันธุกรรม การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม การมีสุขอนามัยช่องปากที่ไม่ดี และการใช้ยาบางชนิด

แก้ไขฟันเหลืองด้วยการฟอกสีฟัน ที่คลินิกทันตกรรมสไมล์บ็อกซ์ เราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ และเครื่องมือฟอกสีฟันจาก Phillips Zoom! โดยน้ำยาฟอกสีฟัน Zoom! จะใช้สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen peroxide) เป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือคาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ (Carbamide peroxide) จะช่วยทำให้เม็ดสีในชั้นเคลือบฟันเกิดการแตกตัว และสลายไป ส่งผลให้ฟันมีสีขาวสว่างขึ้น

การฟอกสีฟันที่คลินิกเป็นวิธีการฟอกสีฟันที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนภายในเวลาอันสั้น
ส่วนการฟอกสีฟันที่บ้านมีหลายแบบ เช่นการใช้แผ่นฟอกฟันขาวติดที่ตัวฟัน หรือการใช้น้ำยาฟอกสีฟันคู่กับถาดฟอกสีฟัน วิธีนี้สามารถเห็นผลลัพธ์ได้เช่นกันแต่อาจใช้ระยะเวลานานกว่า


เราไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของวิธีการฟอกสีฟันใดๆ ที่ไม่ได้แนะนำโดยทันตแพทย์ ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณพิจารณาการฟอกสีฟันที่อยู่ภายใต้ความดูแลของทันตแพทย์เท่านั้น

หลังการฟอกสีฟัน มีโอกาสที่ฟันของคุณจะกลับมามีสีคล้ำ หรือมีสีเข้มเกือบเท่าเดิม หากคุณรับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม และใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันของคุณกลับมามีสีคล้ำได้

ดูแลสุขอนามัยช่องปากสม่ำเสมอ

ควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยใช้แปรงสีฟันขนนุ่ม ยาสีฟันที่มีส่วนประกอบของสารฟลูออไรด์ และใช้ไหมขัดฟันทุกวันเพื่อกำจัดคราบพลัค และเศษอาหารที่ติดตามซอกฟัน

หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหาร และเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม

อาหาร และเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม ได้แก่ชา กาแฟ ไวน์แดง และผลไม้ตระกูลเบอร์รี จะทำให้สีฟันของคุณเปลี่ยนได้ ดังนั้นคุณควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ หรือบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าหลังรับประทานทันที

ใช้หลอดดูดน้ำ

ควรใช้หลอดดูดน้ำเมื่อดื่มเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม เนื่องจากการใช้หลอดจะช่วยลดการสัมผัสระหว่างเครื่องดื่มกับผิวฟันโดยตรงได้.

งดสูบบุหรี่ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบ

การสูบบุหรี่ และการใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบ ทำให้สีฟันของคุณเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ดังนั้นควรงด หรือหลีกเลี่ยงใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันกลับมามีสีคล้ำ

ทัชอัพเป็นระยะ

ทันตแพทย์อาจแนะนำให้คุณทำการฟอกสีฟันซ้ำ หรือทัชอัพเป็นระยะ เพื่อคงสภาพสีฟันที่คุณต้องการให้อยู่ได้นานยิ่งขึ้น

ถ้าปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้หลังการฟอกสีฟัน จะช่วยป้องกันไม่ให้ฟันของคุณกลับมามีสีคล้ำเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม การฟอกสีฟันไม่ใช่วิธีการรักษาถาวร คุณต้องฟอกสีฟันซ้ำในอนาคต เพื่อคงสภาพสีฟันให้ตรงกับที่คุณต้องการ

มีหลายวิธีที่คุณสามารถปฏิบัติตามเพื่อช่วยหยุดยั้ง และป้องกันอาการเสียวฟันได้:

ดูแลสุขอนามัยช่องปากสม่ำเสมอ: ควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยใช้แปรงสีฟันขนนุ่ม ยาสีฟันที่มีส่วนประกอบของสารฟลูออไรด์ และใช้ไหมขัดฟันทุกวันเพื่อกำจัดคราบพลัค และเศษอาหารที่ติดตามซอกฟัน

ใช้ยาสีฟันสูตรลดอาการเสียวฟัน: ในยาสีฟันสูตรลดอาการเสียวฟัน จะมีส่วนประกอบที่ช่วยยับยั้งการส่งสัญญาณของอาการเสียวฟันไปยังเส้นประสาทของฟัน ซึ่งสามารถใช้ได้เป็นประจำ

หลีกเลี่ยงอาหาร และเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์เป็นกรด: อาหาร และเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์เป็นกรดสามารถกัดกร่อนผิวฟัน ทำให้เกิดอาการเสียวฟันมากขึ้น จึงควรจำกัดปริมาณการรับประทานอาหาร และเครื่องดื่ม จำพวกผลไม้รสเปรี้ยว โซดา และน้ำอัดลม.

ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์: สารฟลูออไรด์จะช่วยเสริมสร้างให้เคลือบฟันของคุณแข็งแรง ส่งผลให้อาการเสียวฟันลดลง

ใส่เฝือกสบฟัน: ถ้าคุณมีพฤติกรรมนอนกัดฟัน การใส่เฝือกสบฟันขณะนอนหลับ จะช่วยป้องกันไม่ให้ฟันของคุณสึกเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการเสียวฟัน

พบทันตแพทย์สม่ำสมอ: การตรวจสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ทันตแพทย์ตรวจพบ และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นโรคเหงือกอักเสบ หรือโรคฟันผุก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเสียวฟัน นอกจากนี้ทันตแพทย์ยังสามารถให้คำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อช่วยลดอาการเสียวฟันได้

ถ้าอาการเสียวฟันของคุณไม่หายไป หรือมีอาการรุนแรงมากขึ้น ควรปรึกษาทันตแพทย์ทันที โดยทันตแพทย์จะให้คำแนะนำ และแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับคุณได้ เช่นการอุดฟัน การปลูกเหงือก หรือการรักษาคลองรากฟัน เป็นต้น

หากมีปัญหาหลังฟอกสีฟัน คุณสามารถติดต่อคลินิกของเรา เพื่อรับการคำปรึกษา และแก้ไขปัญหาโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเรา

ติดต่อเราวันนี้

การฟอกสีฟันจะได้ผลเฉพาะกับฟันธรรมชาติ แต่ไม่สามารถทำให้สีของวัสดุบูรณะเดิมที่เคยรับการรักษาขาวสว่างขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น ครอบฟัน วีเนียร์ หรือวัสดุบูรณะฟันชนิดอื่นๆ เนื่องจากวัสดุเหล่านี้จะไม่ตอบสนองต่อสารในน้ำยาฟอกสีฟัน


หากสีของวัสดุบูรณะที่มีอยู่เดิมในช่องปากไม่ตรงกับสีฟันธรรมชาติของคุณ อาจจำเป็นต้องทำการบูรณะใหม่ หลังจากฟอกสีฟันเสร็จ เพื่อเปลี่ยนสีวัสดุเดิมให้มีความใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ ดังนั้นคุณควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อนการฟอกสีฟัน เพื่อพิจารณาและวางแผนการรักษาให้ดี


ทันตแพทย์อาจแนะนำแนวทางการรักษาอื่นที่เหมาะสมกับคุณ เช่นแทนที่วัสดุเดิมด้วยวัสดุชิ้นใหม่ที่มีสีใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติหลังฟอกสีฟัน การบูรณะฟันด้วยวัสดุอุดสีเหมือนฟัน หรือทำพอร์ซเลนวีเนียร์ที่นอกจากสามารถเปลี่ยนสีฟันได้แล้ว ยังสามารถเปลี่ยนรูปร่างของฟันให้มีความสวยงามได้อีกด้วย ดังนั้นควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อเลือกการรักษาให้ตรงกับความต้องการของคุณ

การฟอกสีฟันสามารถทำได้ทุกคน แต่ไม่แนะนำสำหรับกลุ่มคนดังต่อไปนี้

  • มีอายุต่ำกว่า 16 ปี
  • กำลังตั้งครรภ์ หรือ ให้นมบุตร
  • มีอาการเสียวฟัน
  • มีวัสดุบูรณะฟันหลายตำแหน่งในช่องปาก

ยังมีการรักษาอื่นที่เหมาะสำหรับคุณ หากคุณกำลังมองหาวิธีเปลี่ยนรอยยิ้มให้สวยงามยิ่งขึ้น

ไปยัง พอร์ซเลนวีเนียร์

ไปยัง การจัดฟันใส INVISALIGN

ไปยัง รากฟันเทียม

          ยังไม่มั่นใจเกี่ยวกับการฟอกสีฟันใช่หรือไม่?

  ลองศึกษาทางเลือกอื่น ที่อาจเหมาะสำหรับคุณ

● คอมโพสิตวีเนียร์
● การบูรณะฟันด้วยวัสดุคอมโพสิต
● พอร์ซเลนวีเนียร์
● ครอบฟัน