บอกน้องความจริงว่าจะพาไปพบหมอฟัน
ไม่แนะนำให้บอกว่ากำลังพาไปเที่ยวหรือพาไปซื้อของเล่นเพราะน้องจะเกิดความคาดหวัง เมื่อน้องรู้ความจริงน้อง อาจจะเกิดการต่อต้านได้ และ เกิดความรู้สึกไม่ดีต่อการมา พบหมอฟันค่ะ
เล่าเรื่องการไปพบหมอฟันให้น้องฟังในเชิงบวก
เริ่มเล่านิทานหรือแต่งนิทานเกี่ยวกับการพาเด็กไปหาหมอฟันให้น้องฟังค่ะ ควรเล่าเรื่องในเชิงบวก ให้กำลังใจ เล่าถึงความสนุก ที่เกิดขึ้นเมื่อไปพบหมอฟัน เช่นเก้าอี้หมอฟันเป็นยานอวกาศหรือเป็นเวที สามารถปรับขึ้นลงได้ หรือ หมอฟันจะทำให้ฟันของเราแข็งแรง จะได้ทานข้าวได้อย่างอร่อย ยิ้มถ่ายรูปได้สวยๆ
อ่านหนังสือหรือเปิดการ์ตูนเกี่ยวกับการไปหาหมอฟันให้น้องดู
มีแนะนำคลิปของ Peppa Pig ค่ะ
ไม่ปลูกฝังความกลัวในการทำฟัน
โดยขู่ลูกเช่นถ้าดื้อ / ถ้ากินของหวาน / ถ้าไม่แปรงฟัน จะพาไปหาหมอให้ถอนฟันหรือฉีดยา เพราะเป็นการสร้างทัศนคติไม่ดีต่อการไปพบหมอฟัน น้องจะรู้สึกกลัว เกิดการต่อต้าน และไม่ให้ความร่วมมือเมื่ออยู่กับหมอฟัน ทั้งนี้จะทำให้การพบหมอฟันครั้งต่อๆไปยากกว่าเดิม
แนะนำมาถึงคลินิกก่อนเวลานัดพบหมอฟันเล็กน้อย
ในวันนัด ควรพาน้องมาถึงคลินิกก่อนเวลานัดเล็กน้อย น้องจะได้มีเวลาเล่นของเล่น ระหว่างรอทำฟัน เพื่อให้เกิดความผ่อนคลายก่อนเข้าไปพบคุณหมอ
งดอาหารก่อนมาทำฟันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
แนะนำให้งดอาหารก่อนมาทำฟันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง (งดนมอย่างน้อย 4 ชั่วโมง) เพื่อป้องกันการอาเจียนระหว่างทำฟัน
ควรพาผู้มีหน้าที่ในการแปรงฟันให้น้องมาพบหมอ
เพื่อสอนวิธีแปรงฟันและทำความสะอาดน้องอย่างถูกวิธี
หากน้องมีความร่วมมือดีคุณหมอจะเริ่มตรวจฟันและรักษาให้เลย
หมอจะตรวจฟัน และสามารถทำการรักษาให้เลย หมอจะแจ้งแผนการรักษาให้กับคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะคะ
หากหมอประเมินแล้วว่าน้องยังไม่พร้อมจะเริ่มการรักษา
หากน้องยังไม่รู้สึกปลอดภัย ยังไม่คุ้นเคยยังมีความกลัวคุณหมอจะเริ่มสร้างความคุ้นชินกับเครื่องมือสถานที่และปรับทัศนคติให้ดีขึ้นสำหรับการรักษาในครั้งต่อไป
ดังนั้นหากไม่ได้มีการรักษาเกิดขึ้นในครั้งนี้ คุณพ่อ/คุณแม่ไม่ต้องกังวลนะคะ เป็นเรื่องปกติค่ะ
คำถามที่พบบ่อย
เพื่อเป็นการสร้างทัศนคติที่ดีในการทำฟันของเด็ก ๆ ควรพาควรเริ่มพาเด็กมาพบหมอฟัน ตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น หรือช้าสุดไม่เกิน 1 ขวบปีแรก แม้เด็กยังไม่มีฟันผุ
- อย่าคิดว่าการรักษาฟันน้ำนมไม่คุ้มค่า ฟันน้ำนมที่หลุดเมื่อถึงอายุที่สมควรหลุดจริง ทำให้ฟันแท้ขึ้นได้ตรง ไม่ซ้อนเก ไม่ผุง่าย
- แม้ฟันของเด็กๆจะเป็นฟันน้ำนม แต่เราก็ไม่ควรละเลย เพราะฟันของพวกเขาเปราะบาง และอ่อนแอกว่าฟันแท้มาก จึงควรดูแลฟันให้สะอาดและพามาพบทันตแพทย์เป็นประจำ โดยสามารถพาลูกมาพบทันตแพทย์ทุก ๆ 3-6 เดือน โดยขึ้นอยู่กับความเสี่ยงในการเกิดฟันผุของเด็กแต่ละคน โดยเฉพาะเด็กที่มีความเสี่ยงในการเกิดฟันผุค่อนข้างสูง หรือยังทำความสะอาดช่องปากได้ไม่ดี อาจจะต้องพบทันตแพทย์เร็ว หรือบ่อยขึ้น