Functional Education (functional orthodontics)
Functional orthodontics is the combination of using an orthodontic appliance and a number of exercises to help improve facial aesthetics, helps prevent further dental treatment in the future such as extractions, gives improved stability of the teeth in the long term, helps with normal bodily functions like breathing, swallowing and chewing.
It also helps prevent teeth from breaking in the future!
This is done by not only using an orthodontic appliance but with:
– Case selection
– Early intervention
– Patients input
– Dedicated Dental Team
– Motivation
– Therapeutic Goals
At SmileBox, we can help you or your child with your orthodontic needs using Functional Education.
Contact us today to find out more.
6 ปัญหาสำคัญ ที่สามารถแก้ไขด้วยเครื่องมือจัดฟันชนิดฟังก์ชันนอล
แก้ไขปัญหาขากรรไกรค้างโดยการเพิ่มระยะห่างระหว่างฟันกราม
ฝึกการหายใจทางจมูกอย่างถูกต้อง
ปรับการวางลิ้นให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
ใช้เป็นอุปกรณ์ป้องกันการดันฟันจากริมฝีปาก และการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณคางที่มากเกินไป
ปรับรูปแบบการเรียงตัวของฟัน
แก้ไขตำแหน่งฟันกัดเบี้ยว และช่วยให้ฟันแท้สามารถขึ้นได้เป็นปกติ
จุดประสงค์หลักในการใช้เครื่องมือจัดฟันชนิดฟังก์ชันนอลคืออะไร?
เครื่องมือจัดฟันชนิดฟังก์ชันนอลมีเป้าหมายเพื่อปรับตำแหน่งของริมฝีปาก แก้ม และลิ้นให้สมดุล ทำให้มีพฤติกรรมการหายใจ และการกลืนอย่างถูกต้อง
เครื่องมือจัดฟัน EF สามารถแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง?
4 ปัญหาการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติที่พบได้บ่อย ซึ่งสามารถแก้ไขหรือป้องกันได้ด้วย EF
ฟันซ้อนเก เป็นการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติซึ่งพบได้บ่อย เนื่องจากภายในช่องปากมีพื้นที่ไม่เพียงพอ ส่งผลให้ฟันขึ้นใหม่เรียงตัวซ้อนทับกัน หากทำความสะอาดไม่ทั่วถึงอาจนำไปสู่ปัญหาช่องปากได้
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับฟัน: ฟันซ้อนเกไม่ได้เกิดขึ้นเพราะฟันของเราใหญ่เกินไปสำหรับขากรรไกร แต่เป็นเพราะความผิดปกติของขากรรไกร หรืออาจเกิดจากพันธุกรรม
เป็นปกติที่ฟันบนและฟันล่างจะมีระยะเหลื่อมกันเล็กน้อย แต่ในภาวะฟันสบลึกนั้นขากรรไกรบนมีระยะเหลื่อมที่มากกว่าปกติทำให้ฟันบนสบครอบปิดฟันล่าง อาจลึกมากจนฟันบนสบลงบนเหงือกของฟันล่างได้ ภาวะนี้มักเกิดในผู้ที่มีขากรรไกรล่างอยู่ค่อนไปทางด้านหลังกว่าปกติจึงมีผลกระทบต่อรูปทรงของใบหน้าและขากรรไกร ภาวะฟันสบลึกสามารถนำไปสู่การมีพฤติกรรมกัดขบฟันและบดฟันซึ่งอาจทำให้รู้สึกไม่สบายและปวดศีรษะได้
ฟันห่าง หรือ มีช่องว่างระหว่างซี่ฟัน ช่องว่างนี้มักพบได้มากระหว่างฟันคู่หน้าทั้งฟันบนและล่าง มีชื่อเรียกว่า Diastema โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างซี่ฟัน เช่น:
- ความไม่สมดุลระหว่างขนาดของฟันและขนาดของขากรรไกร
- มีการยึดเกาะของเนื้อเยื่อยึดเหงือกสูงคั่นระหว่างฟันคู่หน้า (High labial frenum attachment) ในกรณีนี้จึงเหมาะกับการผ่าตัดเนื้อเยื่อยึดเหงือก (Frenectomy) ก่อนการจัดฟันเพื่อปิดช่องว่างระหว่างซี่ฟัน
- ฟันขึ้นไม่ครบในช่องปาก หรือ ฟันมีขนาดเล็กกว่าปกติ จะสามารถทำให้เกิดช่องว่างระหว่างฟันได้
- พฤติกรรมดูดนิ้วโป้งสมัยเด็กเป็นอีกสาเหตุที่พบได้บ่อยในการทำให้เกิดช่องว่างระหว่างฟัน เนื่องจากเป็นการดันฟันไปข้างหน้าด้วยแรงที่มากกว่าปกติ
ช่องว่าง Diastema ไม่ได้ถูกมองว่าเป็น “ปัญหาทางทันตกรรม” โดยปกติแล้วไม่มีอันตรายและไม่จำเป็นต้องรักษาหรือแก้ไข บางคนมองว่า Diastema คือจุดเด่นที่ทำให้รอยยิ้มมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเหมือนกับนักร้องชื่อดัง มาดอนนา
แต่อย่างไรก็ตาม เราก็มักจะได้ยินคำบ่นเวลามีเศษอาหารติดตามช่องว่างระหว่างฟันอยู่บ่อยๆ บางคนที่เห็นต่างกับความสวยงามข้างต้น ในกรณีนี้การจัดฟันเพื่อปิดช่องว่างระหว่างฟันก็สามารถทำได้
ฟันสบคร่อม หรือ ฟันสบกันแบบไขว้ คือ การที่ฟันหน้าล่างสบคร่อมฟันหน้าบน โดยคนไข้มักจะมาพบทันตแพทย์ด้วยปัญหา “คางของฉันดูยื่น” “ฟันหน้าของฉันสบกระแทกกัน” หรือ “ฉันใช้ฟันหลังเคี้ยวไม่ถนัด”
ฟันสบคร่อมสามารถเกิดได้ทั้งฟันหน้าและฟันหลัง ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา โดยมักเกิดจากความผิดปกติของฟัน หรือ ความผิดปกติของกระดูกขากรรไกร หรือ เกิดร่วมกันทั้งคู่ ซึ่งสาเหตุอาจมาจากโครงสร้างของกระดูก พฤติกรรมช่องปากที่ผิดปกติ ปัญหาระบบทางเดินหายใจ หรือ ลักษณะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม หากไม่ทำการแก้ไขภาวะฟันสบคร่อม ไม่เพียงแต่จะมีผลกระทบต่อฟันเท่านั้น แต่ยังสามารถเกิดปัญหาเกี่ยวกับขากรรไกรได้เช่นกัน โดยกล้ามเนื้อบดเคี้ยวจะทำงานไม่สม่ำเสมอทำให้เกิดความผิดปกติของข้อต่อขากรรไกร ซึ่งอาจนำไปสู่อาการปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อขากรรไกร คอ บ่า และไหล่ได้
คำถามที่พบบ่อย
เครื่องมือจัดฟันชนิดฟังก์ชันนอลสามารถใส่ได้ตั้งแต่อายุ 3 ปีเป็นต้นไป
เครื่องมือ EF Line คือเครือของอุปกรณ์จัดฟันที่สามารถใช้ได้กับหลายช่วงอายุของการเจริญเติบโตของฟัน
โดยมีจุดประสงค์หลักคือ การป้องกันไม่ให้เกิดความผิดปกติ หรือ การแก้ไขความผิดปกติตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วยการใส่เครื่องมือจัดฟันชนิดถอดได้ ร่วมกับการฝึกกล้ามเนื้อ และฝึกการหายใจ
แพ็กเกจเครื่องมือ EF เริ่มต้นที่ราคา 25,000 บาท
ซึ่งในแพ็กเกจประกอบไปด้วย การตรวจช่องปาก การถ่ายภาพรังสีพาโนรามิกและเซฟาโลเมตริก การถ่ายภาพรังสีข้อมือ เครื่องมือ EF Line จำนวน 2 ชิ้น การรักษาฟัน เช่น การเคลือบหลุมร่องฟัน การบูรณะฟันด้วยเรซิ่นเพื่อการป้องกัน(PRR) การถอนฟันตามลำดับในแผนการรักษา การทาฟลูออไรด์วานิช การให้คำแนะนำ และติดตามผลความคืบหน้าภายหลังการรักษา 1 ปี
ทั้งนี้หากมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องมือ EF เพิ่มเติม จะมีค่าใช้จ่าย 5,000 บาทต่อชิ้น
เครื่องมือ EF Line ผลิตขึ้นในประเทศฝรั่งเศส และได้รับการรับรองจากสถาบันการวิจัยของเอกชนว่าปราศจากสาร ดังต่อไปนี้
- Phthalates Bisphenol A (BPA)
- Alimentary Raw Material
โดยเครื่องมือ EF จะมีกลิ่นหอมของเปปเปอร์มินต์ด้วย
เครื่องมือ EF จะทำให้อาการภูมิแพ้ดีขึ้นเนื่องจากสามารถช่วยปรับเทคนิคการหายใจให้ถูกต้อง
สำหรับผู้ที่มีตำแหน่งของลิ้นยื่นมาข้างหน้ามาก จะสามารถช่วยปรับให้ลิ้นกลับไปวางอยู่ที่ด้านหลังของฟันล่าง ซึ่งจะทำให้อากาศสามารถไหลเวียนเข้ามาในช่องปากได้อย่างเหมาะสมเป็นปกติ
เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรใส่เครื่องมือจัดฟัน EF ประมาณ 2 ชั่วโมงในระหว่างวัน และขณะนอนหลับตอนกลางคืน
อย่างไรก็ตามระยะเวลา 2 ชั่วโมงนี้อาจแบ่งเป็นช่วงย่อยๆได้ เช่น ใส่ 1 ชั่วโมงขณะดูโทรทัศน์ และอีก 1 ชั่วโมงขณะเรียนหรือทำงาน
นอกจากนี้ยังต้องใส่ในขณะนอนหลับ ภายหลังการแปรงฟัน เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มีการเจริญเติบโตของฟันเกิดขึ้นมากที่สุด จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการรักษาแก้ไขความผิดปกติของการเรียงฟัน
หากฟันกรามแท้ซี่ที่สองขึ้นสมบูรณ์แล้ว การปรับเปลี่ยนการเจริญเติบโตจะทำได้ยาก ซึ่งทำให้เครื่องมือ EF นั้นใช้ไม่ได้ผล
อย่างไรก็ตาม เครื่องมือ EF ก็ยังสามารถใช้ได้ในผู้ใหญ่ เพื่อแก้ไขตำแหน่งข้อต่อขากรรไกร แต่ไม่ใช่การใช้งานเพื่อปรับเปลี่ยนการเจริญเติบโต
เครื่องมือในเครือ EF Line แต่ละชนิดมีแนวทางในการเลือกใช้แตกต่างกัน จึงสามารถพิจารณาเลือกเครื่องมือให้เหมาะสมกับปัญหาต่างๆ ของคุณ หรือ บุตรหลานได้
เรามีความจำเป็นต้องประเมินการเจริญเติบโตของกระดูก เพื่อนำมาใช้ในการคำนวณลำดับการขึ้นของฟัน ซึ่งข้อมูลนี้จะได้มาจากการวิเคราะห์ภาพรังสีของกระดูกข้อมือ
เครื่องมือในเครือ EF Line มีอะไรบ้าง?
EF KID เป็นเครื่องมือจัดฟันที่มีจุดมุ่งหมายในการป้องกันความผิดปกติต่างๆในช่วงอายุประมาณ 3 ปี
เครื่องมือนี้จะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบหน้าและฟัน ยับยั้งพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในวัยเด็ก เช่น การดูดนิ้วโป้งหรือจุกนม และปรับการหายใจทางจมูกให้ถูกต้อง
ลักษณะของเครื่องมือ EF KID
– มีขนาดเดียว (สำหรับเด็กช่วงวัย 3-4 ปี)
– สามารถใช้จนกระทั่งฟันกรามแท้ซี่แรกขึ้น
– มีส่วนยื่นด้านหน้าที่สัมผัสกับริมฝีปาก
– มีช่องระบายอากาศสำหรับการไหลเวียนของน้ำลาย และช่วยลดความรู้สึกหายใจไม่สะดวก
– มี 3 สีให้เลือกใช้ ได้แก่ สีชมพู สีน้ำเงิน และสีใส
ข้อบ่งชี้ในการใช้เครื่องมือ EF KID
– สามารถใช้ได้กับการสบฟันทุกรูปแบบ (ภายหลังอาจต้องมีการปรับเปลี่ยนเครื่องมือให้มีความเหมาะสมมากขึ้น)
– ใช้ได้ทั้งฟันแท้ และฟันน้ำนม
– สามารถแก้ไขปัญหาฟันสบคร่อม ฟันสบเปิด และฟันสบลึกได้
EF START เป็นเครื่องมือที่ใช้ก่อนการจัดฟัน ในช่วงวัยที่มีแต่ฟันน้ำนม หรือ ช่วงต้นของฟันแท้ ตั้งแต่ช่วงอายุประมาณ 4 ปีขึ้นไป
เครื่องมือนี้จะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบหน้าและฟัน ในขณะที่แก้ไขพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อย่างเช่น การกลืน การหายใจ และตำแหน่งของขากรรไกร
ลักษณะของเครื่องมือ EF START
– เครื่องมือจะคลุมฟันหน้าบนและล่าง เพื่อปรับการเรียงตัว และตำแหน่งเส้นกึ่งกลางฟันหน้า
– มี 3 สีให้เลือกใช้ ได้แก่ สีชมพู สีน้ำเงิน และสีใส
ข้อบ่งชี้ในการใช้เครื่องมือ EF START
– ใช้ได้ทั้งในชุดฟันน้ำนม และช่วงต้นของชุดฟันผสม
– สามารถใช้ได้กับการสบฟัน ประเภท Class I และ Class II (ในกรณีที่มีความรุนแรงไม่มาก)
– สามารถแก้ไขปัญหาฟันสบคร่อมได้ทั้งฟันหน้าและฟันหลัง
– แก้ปัญหาฟันสบลึก ฟันสบเปิด ฟันสบคร่อม และฟันซ้อนเกในผู้ป่วยที่สบฟันแบบ Class I ได้
– แก้ไขปัญหาเส้นกึ่งกลางฟันเบี้ยวได้
EF T SLIM เป็นเครื่องมือที่ใช้ก่อนการจัดฟัน ในช่วงวัยที่มีชุดฟันผสม หรือ ประมาณช่วงอายุ 6 ปีขึ้นไป
เครื่องมือนี้จะมีเอกลักษณ์ที่สามารถแก้ไขตำแหน่งกึ่งกลางของฟันหน้า ไปพร้อมๆกับปรับพฤติกรรมการกลืน การหายใจ และตำแหน่งของขากรรไกร
ลักษณะของเครื่องมือ EF T SLIM
– เครื่องมือจะคลุมฟันหน้าบนและล่าง เพื่อปรับการเรียงตัว และตำแหน่งเส้นกึ่งกลางฟันหน้า
– มีหลายสีให้เลือกใช้ ได้แก่ แดง เขียว เหลือง น้ำเงิน และสีใส
ข้อบ่งชี้ในการใช้เครื่องมือ EF T SLIM
– ใช้ได้ในช่วงชุดฟันผสม
– สามารถใช้ได้กับการสบฟัน ประเภท Class I และ Class II
– สามารถใช้เป็นเครื่องมือกันพื้นที่ให้ฟันน้ำนมที่สูญเสียไปก่อนเวลาอันควรได้
– แก้ปัญหาฟันสบลึก ฟันสบเปิด ฟันสบคร่อม และฟันซ้อนเกในผู้ป่วยที่สบฟันแบบ Class I ได้
EF GUIDE เป็นเครื่องมือที่สามารถใช้แก้ไขความผิดปกติได้เช่นเดียวกับเครื่องมือ EF ในรุ่นก่อนหน้า แต่เพิ่มความสามารถในการแก้ไขความผิดปกติของการเรียงฟันที่ไม่รุนแรงในผู้ป่วยที่สบฟันแบบ Class I อีกทั้งเครื่องมือนี้ยังสามารถแก้ไขตำแหน่งฟันกัดเบี้ยวได้
เครื่องมือนี้มีหลากหลายขนาดให้เลือกใช้ จึงสามารถเลือกขนาดที่เหมาะสมกับฟันของผู้ป่วยแต่ละรายได้
ลักษณะของเครื่องมือ EF GUIDE
– เครื่องมือจะคลุมฟันหน้าบนและล่าง โดยคลุมถึงซี่ฟันกรามน้อยซี่แรก เพื่อการยึดติดในช่องปาก และช่วยเรื่องการขึ้นของฟัน
– มีสีใสสีเดียว
– มีทั้งหมด 8 ขนาด ตั้งแต่ขนาด 0-7
ข้อบ่งชี้ในการใช้เครื่องมือ EF GUIDE
– ผู้ป่วยอายุตั้งแต่ 12 ปี ที่มีฟันกรามใหญ่ และฟันกรามน้อยน้อยขึ้นแล้ว
– สามารถใช้ได้กับผู้ป่วยที่สบฟันประเภท Class I และ Class II ที่เคยได้รับการแก้ไขตำแหน่งกึ่งกลางฟันหน้า และรักษาด้วยเครื่องมือ EF ชนิดอื่นๆมาแล้ว
– มักใช้เป็นเครื่องมือจัดฟันชนิดถอดได้ชิ้นสุดท้าย ก่อนเปลี่ยนไปใช้เครื่องมือจัดฟันชนิดติดแน่น
– ใช้เป็นเครื่องมือเตรียมพื้นที่ให้ฟันแท้ขึ้นถูกตำแหน่ง
EF CLASS II 2 STEPS เป็นเครื่องมือแรกๆที่มักเลือกใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีฟันหน้าบนและล่างเหลื่อมกันประมาณ 10 มิลลิเมตรขึ้นไป
เครื่องมือนี้จะช่วยลดระยะความเหลื่อมของฟัน เมื่อสามารถลดได้ถึงระดับหนึ่งแล้ว ผู้ป่วยจะได้รับการเปลี่ยนไปใช้เครื่องมือ EF ชนิดอื่น เช่น EF Class II Slim หรือ Standard หรือ Large เพื่อแก้ไขความเหลื่อมของฟันขั้นสุดท้ายให้เสร็จสิ้น
ลักษณะของเครื่องมือ EF CLASS II 2 STEPS
– ฟันบนและล่างจะถูกยกให้ห่างกันทั้งด้านหน้าและหลังประมาณ 6 มิลลิเมตร
– มี 5 สีให้เลือกใช้ ได้แก่ สีแดง สีน้ำเงิน สีเขียว สีเหลือง และสีใส
– มีส่วนกั้นค่อนข้างหนาเพื่อแยกเนื้อเยื่อต่างๆออกจากฟัน ซึ่งจะช่วยให้กล้ามเนื้อริมผีปากล่าง และบริเวณคางกลับเข้าสู่ตำแหน่งปกติ
ข้อบ่งชี้ในการใช้เครื่องมือ EF CLASS II 2 STEPS
– ฟันเหลื่อมกันประมาณ 10 มิลลิเมตรขึ้นไป
– สามารถใช้ป้องกันไม่ให้ฟันหน้าบนยื่น หรือ มีลักษณะเป็นฟันกระต่ายมากขึ้น
– เพิ่มความสะดวกสบายในการสวมใส่ให้กับผู้ป่วย
– ช่วยลดการเกร็งของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณคาง
EF CLASS II SLIM เป็นเครื่องมือเฉพาะที่ใช้ในการป้องกันปัญหา และแก้ไขความผิดปกติตั้งแต่เนิ่นๆ โดยการจำกัดตำแหน่งของลิ้น ริมฝีปาก และแก้ม อีกทั้งยังสามารถใช้ปรับตำแหน่งการเรียงฟันในช่วงต้น และแก้ปัญหาตำแหน่งขากรรไกรล่าง เครื่องมือนี้จะเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีฟันสบลึก หรือ ฟันสบเปิด ในการสบฟันหลังแบบ Class II (ไม่เกิน 6 มิลลิเมตร)
ลักษณะของเครื่องมือ EF CLASS II SLIM
– มี 5 สีให้เลือกใช้ ได้แก่ สีแดง สีน้ำเงิน สีเขียว สีเหลือง และสีใส
– มีส่วนขวางกั้นเนื้อเยื่อต่างๆที่สั้น จึงมีความสบายในการสวมใส่มากขึ้น
– ลดพื้นที่ของลิ้น
ข้อบ่งชี้ในการใช้เครื่องมือ EF CLASS II SLIM
– เหมาะสำหรับชุดฟันผสม
– เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีการสบฟันแบบ Class II ที่มีฟันหน้าสบลึก หรือ สบเปิด ร่วมด้วย
EF CLASS II STANDARD เป็นเครื่องมือจัดฟันชนิดถอดได้แบบนิ่ม ใช้เพื่อการรักษาป้องกันในช่วงชุดฟันผสม เพื่อป้องกันแรงจากลิ้น ริมฝีปาก และแก้ม อีกทั้งยังสามารถใช้ปรับตำแหน่งของขากรรไกรล่างด้วย
ลักษณะของเครื่องมือ EF CLASS II STANDARD
– มีส่วนขวางกั้นเนื้อเยื่อต่างๆที่ยาวขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อต่างๆ โดยเฉพาะริมฝีปากล่างและคาง กลับสู่ตำแหน่งที่ถูกต้อง
– มีส่วนขวางกั้นด้านแก้ม สำหรับฟันตัดซี่ข้างและฟันเขี้ยวที่ยื่นออกมาด้านแก้มมากเกินไป
– มี 5 สีให้เลือกใช้ ได้แก่ สีแดง สีน้ำเงิน สีเขียว สีเหลือง และสีใส
– ช่วยแก้ไขพื้นที่ของลิ้นที่มีความลึกด้วยการค่อยๆขยายพื้นที่ให้ยื่นออกมาอย่างช้าๆ เหมาะสำหรับเคสผู้ป่วยที่มีการสบฟันแบบ Class II ร่วมกับมีการเหลื่อมของฟันมากกว่า 6 มิลลิเมตร
ข้อบ่งชี้ในการใช้เครื่องมือ EF CLASS II STANDARD
– เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่สบฟันแบบ Class II ที่มีฟันสบลึกมาก (มากกว่า 6 มิลลิเมตร)
– เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่สบฟันแบบ Class II ที่มีฟันสบเปิด (มากกว่า 6 มิลลิเมตร)
EF CLASS III PETIT เป็นเครื่องมือจัดฟันชนิดถอดได้ที่ออกแบบเพื่อแก้ไขการสบฟันที่ผิดปกติประเภท Class III ในช่วงที่มีแต่ฟันน้ำนม เครื่องมือนี้จะช่วยป้องกันการยื่นของขากรรไกรล่างมาด้านหน้า โดยไม่ส่งผลกระทบต่อขากรรไกรบน และมีส่วนยกกั้นฟันจากริมฝีปากและกล้ามเนื้อโดยรอบ
ลักษณะของเครื่องมือ EF CLASS III PETIT
– มีระยะไถลให้ฟันหน้าบน เพื่อให้สามารถกัดสบฟันได้สะดวก
– มีการยกฟันบน ทำให้มีระยะห่างระหว่างฟันบนและล่าง 2 มิลลิเมตร
– มี 3 สีให้เลือกใช้ ได้แก่ สีชมพู สีน้ำเงิน และสีใส
ข้อบ่งชี้ในการใช้เครื่องมือ EF CLASS III PETIT
– ผู้ป่วยที่สบฟันแบบ Class III ในระยะชุดฟันน้ำนม
EF CLASS III STANDARD เป็นเครื่องมือจัดฟันชนิดถอดได้ที่ออกแบบเพื่อแก้ไขการสบฟันที่ผิดปกติประเภท Class III ในช่วงชุดฟันผสม เครื่องมือนี้จะช่วยป้องกันการยื่นมาด้านหน้าของขากรรไกรล่าง โดยไม่ส่งผลกระทบต่อขากรรไกรบน และมีส่วนยกกั้นฟันจากริมฝีปากและกล้ามเนื้อโดยรอบ
ลักษณะของเครื่องมือ EF CLASS III STANDARD
– มีระยะไถลให้ฟันหน้าบน เพื่อให้สามารถกัดสบฟันได้สะดวก
– มีการยกฟันบน ทำให้มีระยะห่างระหว่างฟันบนและล่าง 2 มิลลิเมตร
– มี 3 สีให้เลือกใช้ ได้แก่ สีชมพู สีน้ำเงิน และสีใส
ข้อบ่งชี้ในการใช้เครื่องมือ EF CLASS III STANDARD
– ผู้ป่วยที่สบฟันแบบ Class III ในระยะชุดฟันผสม
EF BRACES เป็นเครื่องมือจัดฟันชนิดถอดได้ที่ออกแบบเพื่อสวมทับเครื่องมือจัดฟันชนิดติดแน่น สามารถสวมใส่ได้ทั้งเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นช่วงชุดฟันผสม หรือ ชุดฟันแท้
ลักษณะของเครื่องมือ EF BRACES
– มีการเว้นพื้นที่ว่างสำหรับแบร็กเก็ตของฟันบนและล่าง
– มีการเว้นพื้นที่ว่างสำหรับเครื่องมือจัดฟันอื่นๆที่คลุมบริเวณด้านเพดาน หรือ ด้านลิ้น
– มีสีใส
ข้อบ่งชี้ในการใช้เครื่องมือ EF BRACES
– ใช้ก่อน หรือ ร่วมกับการจัดฟันชนิดติดแน่น
– ใช้ในระยะแรกของการปรับแนวการเรียงฟัน
– ใช้ในช่วงชุดฟันผสม หรือ ชุดฟันแท้ในเด็ก วัยรุ่น หรือ ผู้ใหญ่
– ใช้เพื่อป้องกันเนื้อเยื่อในปาก และปรับการเคลื่อนฟันในช่วงแรกของการติดเครื่องมือชนิดติดแน่น
– ใช้ป้องกันข้อต่อขากรรไกรในการทำกิจกรรม เช่น การเล่นกีฬา